หากใครได้ยินชื่อ “วัดธาตุทอง” แล้วล่ะก็… เป็นต้องร้อง “อ๋อ!” อย่างแน่นอน เพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัยเลยล่ะค่ะ แต่ทราบหรือไม่คะว่ากว่าจะเป็นวัดชื่อดังย่านสุขุมวิทอย่างทุกวันนี้ได้นั้น วัดแห่งนี้ก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว วันนี้เลอหรีดเลยจะพาทุกคนมานั่งรถไฟฟ้า BTS เที่ยวชมพร้อมบอกเล่าเรื่องราวน่ารู้ต่าง ๆ ให้ได้ทราบกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามกันเล้ยยย!!!
ประวัติความเป็นมาของวัดธาตุทอง
วัดธาตุทองตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ถือว่าเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2481 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2483 แต่กว่าจะเป็นวัดอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน จริง ๆ แล้ววัดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมาก ๆ ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานีกันเลยทีเดียว เนื่องจากพื้นที่นี้แต่เดิมเป็นที่ตั้งของวัดหน้าพระธาตุกับวัดทองล่างค่ะ ซึ่งวัดหน้าพระธาตุเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่มาของชื่อวัดก็มาจากหน้าวัดมีพระเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ส่วนวัดทองล่างนั้นเดิมทีเป็นสวนผลไม้ที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางสวน เจ้าของสวนเห็นว่าต้นโพธิ์ควรเป็นต้นไม้ในวัดมากกว่าที่จะปลูกไว้ในบ้าน ประกอบกับไม่ต้องการโค่นทิ้ง เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและครอบครัว จึงได้บริจาคที่ดินในบริเวณนั้นเพื่อสร้างเป็นวัดเล็ก ๆ ขึ้นมาและตั้งชื่อว่า “วัดโพธิ์สุวรรณาราม” หรือ “วัดโพธิ์ทอง” ต่อมาชาวบ้านในแถบนั้นได้เรียกชื่ออย่างสั้น ๆ ว่า “วัดทอง” แต่ทว่าตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่างมีวัดทองอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดทองล่าง” ค่ะ
เลอหรีด บริการจัดส่งพวงหรีด วัดธาตุทอง ถึงศาลา ฟรีค่าจัดส่ง สั่งเลย
การเปลี่ยนชื่อครั้งสำคัญของวัดธาตุทอง
พอเวลาผ่านไปจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2480 รัฐบาลในสมัยนั้นต้องการขอเวนคืนพื้นที่วัดหน้าพระธาตุกับวัดทองล่างเพื่อสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ จึงได้ย้ายเสนาสนะและถาวรวัตถุของทั้งสองวัดมาปลูกสร้างรวมกันที่ตำบลคลองบ้านกล้วย โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ที่เป็นทั้งเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุตและเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร มาเป็นองค์อุปถัมภ์ และนำชื่อของวัดทั้งสองแห่งรวมกันตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดธาตุทอง” ย้ายมาเมื่อปี พ.ศ.2481 ค่ะ ต่อมาในปี พ.ศ.2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณารับวัดธาตุทองไว้ในพระอุปถัมภ์และประทานสัญลักษณ์ใหม่ให้แก่วัด และในปี พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกวัดธาตุทองให้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ จวบจนถึงปัจจุบันค่ะ
สถาปัตยกรรมภายในวัดธาตุทอง
เมื่อเดินเข้าไปในวัดธาตุทองแล้วก็จะพบกับสถาปัตยกรรมและสิ่งสำคัญที่น่าสนใจต่าง ๆ ดังนี้คือ…
- 1. พระอุโบสถ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2490 โดยมีขนาดความกว้าง 10 เมตร ยาว 24 เมตร ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน “พระสัพพัญญู” พระประธานประจำพระอุโบสถ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2495, พระพุทธชินินทร ที่เป็นพระประจำอุโบสถ สมัยอู่ทอง และพระพุทธมนต์ปรีชา สุโขทัย ที่เป็นพระประธานหอประชุม
- 2. พระวิหาร “ลิมปาภรณ์” เป็นพระวิหารหลังเก่าที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 ภายในประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน ปัจจุบันพระวิหารหลังนี้ใช้เป็นห้องเรียนธรรมะในวันอาทิตย์
- 3. พระมหาเจดีย์ 84 พรรษา ราชนครินทร์ เป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2553 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยใช้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปจากทั่วโลก รวมไปถึงพระบรมสารีริกธาตุจากหลวงพ่อไจทีเซา เจ้าอาวาสวัดไจทีเซา ในประเทศพม่าด้วย
- 4. หลวงพ่อพระพุทธอภิบาลปวงชน สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2525 มีขนาดหน้าตักกว้าง 32 นิ้ว
- 5. พระเจดีย์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งย้ายมาจากวัดหน้าพระธาตุ
- 6. พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง
- 7. ศาลาการเปรียญ มีลักษณะเป็นฌาปนสถานทรงไทย
หลังจากที่เลอหรีดพาเพื่อน ๆ เที่ยวชมวัดธาตุทองพร้อมกับเล่าประวัติความเป็นมากันไปแล้ว หากมีเวลาว่างก็สามารถมาทำบุญไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเองได้ทุกเมื่อเลยนะคะ แต่ถ้าใครจะสั่งซื้อพวงหรีดเพื่อแสดงความอาลัยก็สั่งซื้อที่ พวงหรีด วัดธาตุทอง ได้เลยค่ะ